แมนเชสเตอร์ซิตี้ อาร์เซอล 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : วิเคร

แมนเชสเตอร์ซิตี้ ข้อมูลการแข่งขัน การแข่งขัน แมนเชสเตอร์ซิตี้ : ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้าย วันแข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ แมนเชสเตอร์ซิตี้ 18 กรกฎาคม 2020 ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สนาม : เวมบลีย์ แมนเชสเตอร์ซิตี้

1. ความกระตือรือล้นของ แมนฯ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้

พลพรรค เรือใบสีฟ้า ออกสตาร์ทได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบการเล่นต่อบอลสั้นก่อนเร่งจังหวะในพื้นที่สุดท้ายอย่างที่เราเคยเห็นเช่นเดิม แต่พวกเขารักษาระดับความเข้มข้นของเกมไว้ได้เพียง 15 นาทีแรกเท่านั้นก่อนที่เกมของพวกเขาเริ่มจะตื้อเมื่อแดนกลางไม่สามารถพลิกบอลจากการเซ็ตเกมได้ บอลที่เดินหน้าขโยกไล่บี้กลายเป็นวนไปวนมาที่หน้าปากประตูของตนเองจนทำให้ อาร์เซนอล ค่อยๆ เรียกความมั่นใจกลับคืนมาและฉวยโอกาสเซ็ตโมเมนตัมของเกมนี้ได้สำเร็จการการได้ประตูเบิกร่องตั้งแต่นาทีที่ 19 โดย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ชนิดที่พลพรรค ไอ้ปืนใหญ่ แทบจะยกเอารูปแบบการเข้าทำของ เรือใบสีฟ้า มาทั้งดุ้นเกมในครึ่งแรกหลังจากนั้นยังคงตีบตันสำหรับ ซิตี้ ก่อนที่ลูกทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอลา จะกระชุ่มกระชวยขึ้นมาบ้างในต้นครึ่งหลัง ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจฝ่าแนวรับที่มีระเบียบวินัยของเหล่า กันเนอร์ส ได้กระทั่งถูก โอบาเมยอง ยิงฝัง 2-0 ในที่สุด แมนเชสเตอร์ซิตี้

2. เกมรับของ อาร์เซนอล ที่เริ่มต้นตั้งแต่หน้าปากประตู แมนฯ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ซิตี้

หนึ่งในการวางหมากที่สำคัญของ มิเคล อาร์เตต้า ที่ส่งผลให้พวกเขาเป็นฝ่ายกำชัยสำเร็จในเกมนี้คือรูปแบบการเล่นเกมรับตั้งแต่แดนบนโดยมี 3 ประสาน นิโกลาส์ เปเป้, อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง บังทิศทางการเซ็ตเกมจากแดนหลังสู่แดนกลางของ ซิตี้ จนทำให้ทัพ ซิตีเซนส์ พบกับความยากลำบากในการตั้งเกมเมื่อระเบียบวินัยในการยืนตำแหน่งของ 3 ประสานดังกล่าวรวมกับสมาธิของคู่มิดฟิลด์อย่าง กรานิท ชาก้า และ ดานี เซบายอส ที่ยืนคุมพื้นที่กลางสนามจนทำให้เหล่ากองกลางของ ซิตี้ ไม่สามารถพลิกบอลได้ ซึ่งเมื่อรวมกับ 3 ปราการหลัง (กลายเป็น 5 คนเมื่อ เอคตอร์ เบเยริน และ เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ ถอยต่ำ) ก็ทำให้ลูกทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอลา ช็อตไปดื้อๆ แมนเชสเตอร์ซิตี้